Head Top
ทองผันผวน นับถอยหลังวันที่ 9 ก.ค.สงครามการค้าโลกจะร้อนระอุหรือยุติลง
Ads test

ทองผันผวน นับถอยหลังวันที่ 9 ก.ค.สงครามการค้าโลกจะร้อนระอุหรือยุติลง

ทองคำอาจมีแรงเทขาย ถ้าสหรัฐเจรจาบรรลุข้อตกลงกับประเทศคู่ค้าได้

นับตั้งแต่ทรัมป์ประกาศทำสงครามการค้าทั่วโลกในวันที่ 2 เมษายน และในที่สุดวันที่ 9 เมษายน ทรัมป์ยกเลิกมาตรการภาษีตอบโต้ กำหนดกรอบเวลา 90 วันในการเจรจาต่อรองกับประเทศผู้ค้า ยกเว้นจีน นับถอยหลังเหลือเพียง 1 เดือนเท่านั้นภาษีตอบโต้จะมีผลบังคับใช้ ถึงแม้ว่ามีการตั้งกำแพงภาษีตอบโต้ราว 90 ประเทศ แต่คาดว่าประเทศที่ทรัมป์ต้องการเจรจาต่อรองมี 15 ประเทศที่เป็นประเทศที่สหรัฐขาดดุลการค้ามากที่สุด

ตอนนี้สหรัฐบรรลุข้อตกลงกับ UK ประเทศเดียว ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงของการเจรจากับพันธมิตรอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ สำหรับอินเดียกำลังอยู่ในช่วงของการเจรจาก็มีลุ้นที่จะบรรลุข้อตกลงได้ ดังนั้น ราคาทองคำจะผันผวนและอาจมีแรงเทขายตามข่าวที่มีการบรรลุข้อตกลงกับประเทศอื่นเพิ่มเติม

จีน EU ไม่ง่ายที่บรรลุข้อตกลง เสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย

ประเทศเป้าหมายหลักที่ทรัมป์ต้องการจะตั้งกำแพงภาษีคือจีน EU เม็กซิโก แคนาดา ซึ่งเม็กซิโกและแคนาดาถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม ทำให้ไม่เห็นรายชื่อทั้ง 2 ประเทศในภาษีตอบโต้ EU ไม่มียื่นข้อเสนอเพื่อเจรจาต่อรองกับสหรัฐ ทำให้ทรัมป์ต้องขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีกับ EU ในอัตรา 50% เริ่มวันที่ 1 มิถุนายน แต่ในที่สุดก็เลื่อนกำหนดเป็นเส้นตายเดิม คือวันที่ 9 กรกฎาคม

สำหรับจีนมีความได้เปรียบสหรัฐในหลายประเด็น ทั้งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก มีแร่หายากที่ใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และเป็นประเทศที่มีการถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากที่สุดอันดับ 2 ของโลก ทำให้ไม่จำเป็นต้องยื่นข้อเสนอที่ทำให้จีนต้องเสียผลประโยชน์ ยังมีเวลาในการเจรจาจนถึงกลางเดือนสิงหาคม ในวันที่ 9 มิถุนายนจะมีการเจรจารอบสองระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศ สิ่งที่ต้องการคือจีนส่งออกแร่หายากให้สหรัฐ สิ่งที่จีนต้องการจากสหรัฐคือการลดข้อจำกัดการส่งออกชิปของจีนไปยังสหรัฐ

ประเมินว่าสงครามการค้าน่าจะไม่ได้ยุติได้อย่างง่ายดาย ถ้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ EU จีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ และอาจจะเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ จีน EU นอกจากนี้ สหรัฐยังสามารถเลือกการตั้งกำแพงภาษีรายประเทศ รายสินค้าได้ สหรัฐ จีน EU มีขนาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่รวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจโลก จะทำให้ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกถดถอยอาจจะกลับมาสูงขึ้น ซึ่งมองว่าเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ

Fed ไม่เร่งลดดอกเบี้ย อาจปรับลดดอกเบี้ยปีนี้ 2 ครั้ง

3 ประเด็นที่ต้องติดตามการประชุมเฟดในวันที่ 17-18 มิถุนายน คือ

1.ผลการประชุมเฟด คาดว่ายังไม่ลดอัตราดอกเบี้ย
2.Dot Plot และประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
3.การแถลงของประธานเฟด

ฮั่วเซ่งเฮงคาดว่าการประชุมเฟดรอบนี้ เฟดอาจยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง Dot Plot นั่นหมายถึงปีนี้เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ตามที่เปิดเผยในการประชุมเดือนมีนาคม และสอดคล้องกับมุมมองของตลาดตาม FedWatch Tool ซึ่งคาดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จะเกิดขึ้นครั้งแรกในการประชุมเดือนกันยายน เฟดยังอยู่ในโหมด Wait & See เนื่องจากยังไม่ทราบอัตราภาษีตอบโต้ว่าจะจบลงที่อัตราเท่าไหร่ และจะกระทบกับเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน

ส่วนการแถลงของประธานเฟด คาดว่าน่าจะยังส่งสัญญาณว่าไม่เร่งลดอัตราดอกเบี้ย ถึงแม้ว่าล่าสุดทรัมป์กดดันให้ลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขการจ้างงาน ADP เดือนพฤษภาคมออกมาอ่อนแอที่สุดในรอบกว่า 2 ปีก็ตาม

ราคาทองคำในระยะสั้น คาดเคลื่อนไหว Sideways มีแนวรับสำคัญที่ 3,245 ดอลลาร์ ถ้าไม่หลุดแนวรับดังกล่าวคาดปรับขึ้นได้ต่อ

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในอีก 1 เดือนข้างหน้า คาดผันผวนตามสถานการณ์สงครามการค้าโลกที่จะร้อนระอุหรือผ่อนคลายลง ถ้าสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้จะส่งผลลบต่อราคาทองคำ แต่ในทางตรงกันข้ามก็จะกลับมามีแรงซื้อทองคำ

ประเด็นสำคัญอื่นที่ต้องติดตามคือ การผ่านร่างกฎหมายลดภาษีและงบประมาณของสหรัฐ (One Big Beautiful Bill) ที่คาดว่าจะผลักดันให้แล้วเสร็จก่อนวัน Independent Day

4.อาจเป็นประเด็นที่ตลาดกลับมาสนใจในเรื่องปัญหาหนี้สาธารณะของสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น การออกพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น นำมาสู่ภาระดอกเบี้ยจ่ายของภาครัฐเพิ่มขึ้น รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจจะสะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและพุ่งสูงขึ้น จากนโยบายการตั้งกำแพงภาษีของทรัมป์

ทองคำมีแนวรับสำคัญที่ 3,245 และ 3,200 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านสำคัญ 3,400 ดอลลาร์ ถ้าผ่านขึ้นได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 3,430 ดอลลาร์

ที่มา : ทองผันผวน นับถอยหลังวันที่ 9 ก.ค.สงครามการค้าโลกจะร้อนระอุหรือยุติลง



squareADS
squareADS
ข่าวราคาทอง
Ads test
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ การเข้าชมเว็บไซต์นี้ต่อไปถือว่าท่านยอมรับคุกกี้บนเว็บไซต์และ  นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งหมดที่ระบุไว้