ชนิดของทองคำบริสุทธิ์และทองคำผสม
ทองคำที่ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับและการลงทุนมีหลายระดับความบริสุทธิ์
โดยสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้:
ทองคำบริสุทธิ์ (Gold Purity Levels)
ทองคำบริสุทธิ์จะวัดตามหน่วย เปอร์เซ็นต์ (%) หรือ กะรัต (Karat, K) โดยทองคำ 24K
ถือเป็นทองคำที่บริสุทธิ์ที่สุด
ประเภท |
ความบริสุทธิ์ (%) |
รายละเอียด |
24K (99.9-100%)
|
99.9-100%
|
ทองคำแท้บริสุทธิ์ ไม่ผสมโลหะอื่น มีเนื้อทองนุ่ม
ไม่เหมาะกับการทำเครื่องประดับ
|
22K (91.6%)
|
91.6%
|
ผสมโลหะอื่น 8.4% เพิ่มความแข็งแรง เหมาะสำหรับเครื่องประดับ
|
18K (75%)
|
75%
|
ผสมโลหะอื่น 25% ใช้ทำเครื่องประดับที่แข็งแรงขึ้น มีสีหลากหลาย
|
14K (58.5%)
|
58.5%
|
ทองคำผสมมากขึ้น ทนทาน ราคาถูกกว่า นิยมในต่างประเทศ
|
10K (41.7%)
|
41.7%
|
มีทองคำเพียง 41.7% ราคาถูกที่สุด ทนทานสูง
|
ประเภทของทองคำตามการใช้งาน
ทองคำแท่ง (Gold Bullion)
• ความบริสุทธิ์ 96.5%-99.99%
• นิยมใช้เป็นการลงทุนและเก็บมูลค่า
• ไม่มีลวดลาย ไม่เสียค่ากำเหน็จ
ทองรูปพรรณ (Gold Jewelry)
• ความบริสุทธิ์ 96.5% (ไทย), 91.6% (ต่างประเทศ)
• นิยมใช้ทำเครื่องประดับ มีค่ากำเหน็จ
• แข็งแรงกว่าทองคำแท่งเพราะผสมโลหะอื่น
ทองขาว (White Gold)
• เป็นทองคำผสม ทองคำ + นิกเกิล/แพลเลเดียม
• สีออกขาวเงิน เงางาม นิยมทำเครื่องประดับ
ทองคำชุบ (Gold Plated)
• เป็นการเคลือบทองคำบนโลหะอื่น
• ราคาถูกที่สุด แต่ทองอาจลอกได้
วิธีเลือกทองคำที่เหมาะสม
✅ หากต้องการ ลงทุน →ควรเลือก ทองคำแท่ง 96.5% หรือ 99.99%
✅ หากต้องการ เครื่องประดับใส่ทุกวัน → ควรเลือก 18K หรือ 22K เพื่อความแข็งแรง
✅ หากต้องการ ดีไซน์หรูหรา มีความเงางาม → ทองขาว (White Gold) หรือ 18K จะเหมาะสม
📌 สรุป: ทองคำบริสุทธิ์มีตั้งแต่ 24K (99.99%) ลงมาจนถึง 10K (41.7%)
โดยยิ่งมีทองคำมากก็จะนิ่มขึ้น เหมาะกับการลงทุน ส่วนทองคำที่มีการผสมจะทนทานขึ้น
เหมาะกับเครื่องประดับ
💡 ถ้าสนใจซื้อทองเพื่อเก็งกำไร แนะนำให้ติดตามราคาทองคำอัปเดตทุกวัน 😊✨