ซีอีโอ Coinbase ชี้ ! วิกฤตหนี้สหรัฐฯ อาจทำให้ Bitcoin ขึ้นมาเป็นสกุลเงินหลักของโลก
Brian Armstrong ซีอีโอของ Coinbase กระดานเทรดคริปโทฯ อันดับ 1 ของสหรัฐฯ ได้ออกมาส่งสัญญาณว่า Bitcoin อาจจะก้าวขึ้นมาเป็นสกุลเงินหลักของโลก ถ้าหากรัฐสภาสหรัฐฯ ยังไม่รีบจัดการปัญหาหนี้สินมหาศาลที่พุ่งสูงถึง 37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างเร่งด่วน
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา Armstrong ได้โพสต์ข้อความว่า “ผมรัก Bitcoin นะ แต่การที่อเมริกามีความแข็งแกร่งก็สำคัญต่อโลกมากเช่นกัน เราจำเป็นต้องควบคุมการเงินของเราให้ได้”
ข้อกังวลของ Armstrong เกิดขึ้นหลังจากที่สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างกฎหมายใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดี Donald Trump เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเพิ่มการลดหย่อนภาษี การเพิ่มงบประมาณทางทหาร และการลดงบประมาณในโครงการต่างๆ เช่น โครงการประกันสุขภาพสำหรับผู้มีรายได้น้อย รวมถึงความช่วยเหลือด้านอาหารและพลังงานสะอาด
สถานการณ์ตึงเครียดทางการคลังนี้ กำลังเป็นตัวจุดประกายให้ผู้คนหันมาสนใจ Bitcoin มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง Bitcoin นั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงวิกฤตการเงินในปี 2008 โดยมีคุณสมบัติที่พิเศษคือ มีจำนวนจำกัดและถูกออกแบบมาให้ต้านทานกับสภาวะเงินเฟ้อ ทำให้มันกลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูดใจสำหรับทั้งนักลงทุนสถาบันและแม้กระทั่งรัฐบาลของแต่ละรัฐในสหรัฐฯ
Keith Ammon สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ได้แสดงความเห็นว่า “เมื่อพูดถึงการสะสม Bitcoin รัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ ไม่ได้แค่ทำการแข่งกันเองเท่านั้น แต่พวกเขากำลังแข่งกับรัฐบาลกลางที่อาจถูกบีบให้ต้องพิมพ์เงินออกมาเพื่อใช้หนี้”
โดย Ammon ยังเสริมอีกว่า แนวทางของรัฐบาลกลางในปัจจุลัน กำลังเป็นภัยคุกคามต่อมูลค่าของเงินดอลลาร์ในระยะยาว และ Bitcoin สามารถเป็นทางออกที่จะช่วยปกป้องการเงินของรัฐต่างๆ ได้
นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลถึง 6 ราย รวมถึง Paul Krugman และ Joseph Stiglitz ก็ได้ร่วมกันเขียนจดหมายในเดือนมิถุนายน โดยเตือนว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มความไม่เท่าเทียมกัน และผลักดันให้หนี้สาธารณะพุ่งสูงขึ้นกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ หรืออาจจะมากกว่านั้นอีก หากข้อกำหนดต่างๆ ในร่างกฎหมายกลายเป็นกฎหมายถาวร
แม้แต่ Elon Musk ซีอีโอคนสนิทของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ยังออกมาโจมตีร่างกฎหมายนี้อย่างรุนแรง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยเขาถึงขั้นกล่าวว่า นี่คือ “เรื่องที่น่ารังเกียจสุดๆ” แถมยังเป็นการใช้จ่ายงบประมาณครั้งมโหฬาร ซึ่งเต็มไปด้วยผลประโยชน์ทางการเมืองที่เอื้อให้กับพวกเดียวกันเอง
การเคลื่อนไหวต่อไปของวุฒิสภาเกี่ยวกับร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลกระทบที่ใหญ่หลวงยิ่งกว่าแค่เรื่องการคลัง เพราะนักวิจารณ์หลายคนมองว่า มันอาจจะเร่งให้ความพยายามในการลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐฯ ในเศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นเร็วขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้
นอกจากนี้ Kadan Stadelmann ผู้บริหารของ Komodo Platform ยังได้ให้ความเห็นว่า “ไม่มีใครกำลังเผชิญหน้ากับความเป็นจริงในสหรัฐฯ นั่นคือที่มาของ Bitcoin และเป็นส่วนสำคัญของเหตุผลที่ Satoshi Nakamoto สร้างมันขึ้นมาในปี 2008”
ที่มา:decrypt
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)