แนวโน้มราคาทอง 30 พ.ค. 68 คาดมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง
ราคาทองปรับตัวขึ้น +30.85 ดอลลาร์ คิดเป็น +0.93% ปิดตลาดที่ระดับ 3,317 ดอลลาร์ คาดทองมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง
Gold spot
สูงสุด – 3,330 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,245 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 50,950 บาท
ต่ำสุด – 50,750 บาท
บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ ฮั่วเซ่งเฮง รายงาน ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ราคาทองโลกเร่งตัวขึ้น 30.85 ดอลลาร์ เนื่องจาก ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงสามารถเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ และภาษีนำเข้าสำหรับเหล็ก อะลูมิเนียม ต่อไปได้ในตอนนี้ ซึ่งบังคับใช้ภายใต้กฎหมายฉบับอื่น ซึ่งเป็นเหตุผลให้ราคาทองโลกมีการเร่งตัวขึ้น ในขณะที่ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 100 หน่วย อีกครั้ง จากความไม่แน่นอนทางด้านภาษีการค้าโลก ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้ 2 ตัว ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 1 ปี 68 ประมาณการครั้งที่ 2 ออกมาที่ (-0.2%) สูงกว่าคาดการณ์ที่ (-0.3%) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงรายสัปดาห์ออกมาที่ 240,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่คาดการณ์ 229,000 ตำแหน่ง ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 4.59 ตัน รวมถึอครอง 930.2 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ สหรัฐฯ มีประกาศการตัวเลข ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค (พื้นฐาน) เดือนเม.ย. (MoM) , ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค (พื้นฐาน) เดือนเม.ย. (YoY) , ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค (ทั่วไป) เดือนเม.ย. (MoM) , ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค (ทั่วไป) เดือนเม.ย. (YoY)
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 3,250 ดอลลาร์ แล้วมีแรงซื้อกลับ แต่ยังอาจผ่านแนวต้านที่ 3,320 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ยาก จึงแนะนำแบ่งขายทำกำไร และรอใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าซื้อจากแนวรับ
ราคาทองตลาดโลก
- แนวรับ : 3,300 และ 3,260 ดอลลาร์
- แนวต้าน : 3,340 และ 3,370 ดอลลาร์
หลังราคาทองโลกปรับตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ แต่ยังมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 3,340 ดอลลาร์ ซึ่งประเมินว่าราคาอาจยังผ่านขึ้นไปได้ยาก จึงอาจแบ่งขายทำกำไรที่ระดับดังกล่าวก่อน และแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอซื้อสะสมจากแนวรับที่ระดับ 3,300 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
- แนวรับ : 50,700 และ 50,400 บาท
- แนวต้าน : 51,300 และ 51,500 บาท
แม้ราคาทองโลกจะมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นมาในสัปดาห์นี้ แต่ก็ยังคงไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ระดับ 51,300 บาท จึงแนะนำแบ่งขายทำกำไรที่ระดับดังกล่าว จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับทยอยเข้าสะสมที่ระดับ 50,700 บาท และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 50,400 บาทลงไป