กระแส HODL มาแรง! หลังอุปทาน Bitcoin ที่ไม่สามารถขายได้ทะลุ 14 ล้าน BTC
ดูเหมือนว่าจำนวน Bitcoin ที่กลายเป็น “อุปทานที่ไม่มีสภาพคล่อง” หรือ Illiquid Supply ได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 14 ล้าน BTC
ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล on-chain อย่าง Glassnode ชี้ว่าในตอนนี้ตลาด Bitcoin ปรากฏการณ์นักลงทุนถือเหรียญไว้ยาวที่จะไม่ยอมขายแม้ราคาจะปรับตัวขึ้นในตลาดกระทิงรอบนี้
Glassnode เผยว่า อุปทานที่ไม่มีสภาพคล่อง คือ เหรียญที่ถูกถือไว้โดยหน่วยงานหรือบุคคลที่มีแนวโน้ม “ไม่ขาย” ซึ่งมีการคำนวณจากสัดส่วนของ BTC ที่เข้ามาและออกจากกระเป๋าเงินของพวกเขา หากค่าต่ำ หมายถึงการเคลื่อนไหวน้อย และถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้ถือเหรียญแบบไม่มีสภาพคล่อง
“สภาพคล่องจึงหมายถึงขอบเขตที่นักลงทุนใช้สินทรัพย์ที่ได้รับไป นักลงทุนที่ไม่มีสภาพคล่องคือคนที่กักตุนเหรียญไว้เพื่อรอรับการเพิ่มขึ้นในระยะยาวของราคา BTC”
ข้อมูลล่าสุดระบุว่าในช่วง 30 วันที่ผ่านมา อุปทาน BTC ที่ไม่สามารถขายได้เพิ่มขึ้นมากถึง 180,000 BTC ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 ซึ่งเป็นช่วงปลายของตลาดหมี ที่ BTC เคยร่วงลงไปถึงระดับต่ำสุดแถว 15,000 ดอลลาร์
แนวโน้มนี้เกิดขึ้นควบคู่กับการที่บริษัทขนาดใหญ่ รวมถึงกองทุนประเภท Bitcoin ETF แบบ spot ได้สะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทที่มีทุนสำรองในคริปโต เช่น MicroStrategy ซึ่งนำ BTC เข้ามาไว้ในพอร์ตระยะยาว
“กลุ่มเจ้ามือของ Bitcoin (ที่ถือ BTC 10,000-10,000) ได้สะสม BTC เพิ่มขึ้น 83,105 BTC ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา”
แหล่งที่มา : กระแส HODL มาแรง! หลังอุปทาน Bitcoin ที่ไม่สามารถขายได้ทะลุ 14 ล้าน BTC